หลายๆ คนอาจเคยสับสนเวลาที่ไปเลือกซื้อหลอดไฟตามร้านค้าต่างๆ เพราะหลอดไฟที่ให้ความสว่างเหมือนๆ กันกลับมีหลายแบบหลายประเภทให้เลือกซื้อเหลือเกิน แล้วหลอดไฟแต่ละประเภทต่างกันยังไง? วันนี้ Lamptam จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับประเภทของหลอดไฟซึ่งมีอยู่ 6 ประเภทครับ
- หลอดกลม :: หลอดไฟประเภทนี้จะมีเส้นลวดเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในหลอด เพื่อทำให้เกิดความร้อน และให้แสงสว่าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดไฟประเภทนี้ใช้พลังงานค่อนข้างมาก และเสื่อมสภาพเร็ว ทำให้เริ่มหมดความนิยมกันไปครับ
- หลอดฟลูออเรสเซนต์ :: หลอดยาวที่นิยมนำมาใช้งานในที่พักอาศัย หลอดไฟประเภทนี้ส่องสว่างโดยใช้ปฎิกิริยาของสารเรืองแสงที่เคลือบด้านในหลอดไฟ และเจ้าสารเรืองแสงนี่แหละครับที่จะเป็นอันตรายมาก หากหลอดฟลูออเรสเซนต์แตกล่ะก็ ต้องระวังอย่าให้บาดเชียวนะครับ
- หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ :: หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อของหลอดประหยัด ซึ่ฃจะมีอยู่ 2 แบบคือหลอดเกลียวหรือหลอด spiral และหลอดตะเกียบหรือหลอด u-type หลอดตะเกียบ เป็นหลอดที่ประหยัดไฟกว่าหลอดกลมหรือหลอดไส้ และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวกว่าอีกด้วย
- หลอดฮาโลเจน :: หลอดฮาโลเจนเป็นหลอดไฟที่ประกอบด้วยไส้ทังสเตน ซึ่งทำให้มีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลอดอื่นๆ เฉลี่ยประมาณ 1,500 – 3,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ให้ระดับความสว่าง และความถูกต้องของสีที่มากกว่าหลอดแบบอื่น ๆ
- หลอด HID :: หลอด HID หรือมีชื่อเต็มว่า High Intensity Discharge เป็นหลอดที่ให้ระดับความสว่างกว่าหลอดฮาโลเจนประมาณ 3 – 4 เท่า และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลอดไฟแบบอื่น ๆ
- หลอดไฟ LED :: ราคาของหลอดไฟ LED ค่อนข้างสูงกว่าหลอดไฟทั่วไปอยู่สักหน่อย แต่ถ้าหากนำมาเปรียบเทียบการใช้งานและคุณภาพแล้วถือว่าหลอดไฟแบบ LED คุ้มค่ากับราคาของมันอยู่ไม่น้อย เพราะหลอดไฟประเภทนี้สามารถเปิด-ปิดได้บ่อยครั้ง ไม่มีการเสื่อมสภาพไปตามจำนวนการกดสวิตช์ นอกจากนี้ไม่มีการปล่อยรังสียูวี หรือก๊าซอันตราย อีกทั้งยังให้แสงที่สบายตากว่าหลอดชนิดอื่น ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับหลอดไส้แบบเดิม ๆ และมีอายุการใช้งานที่นานถึง 50,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูล :: yellowpages.co.th , kapook.com
ขอบคุณภาพ :: eyebrowsworld.wordpress.com